ซักฟอก “แพทองธาร” โยงพ่อเลี้ยง “ทักษิณ” จับตาเกมเชือดซ้ำรอยสอยบรรหาร

ส้มโชว์เก๋าเชือด “แพทองธาร” โยง “ทักษิณ” แผนเสี้ยมแดงชนน้ำเงิน ย้อนรอยซักฟอกบรรหารคนเดียว 4 วัน 4 คืน

ยุทธการถล่ม แพทองธาร โยงประมุขบ้านจันทร์ ทักษิณ ส้มโชว์ซักฟอก ตุนแต้ม แผนลึกเสี้ยมแดงชนน้ำเงิน

ย้อนรอยซักฟอกนายกฯคนเดียว สมัยบรรหาร ฝ่ายค้านขึงพืด พรรคร่วมป่วน จบที่ยุบสภา จับตานายกฯอิ๊งค์ จะจบแบบไหน

ในที่สุด ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีชื่อของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว

นัยว่า พรรคประชาชนแก้เกมนาทีสุดท้าย หลังมีหนอนบ่อนไส้ปล่อยข่าวพร้อมรายชื่อ 10 รัฐมนตรี ที่จะถูกซักฟอกออกมาก่อน ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนยื่นซักฟอกนายกฯอิ๊งค์เพียงคนเดียว

อย่างไรก็ตาม หัวหน้าเท้งยืนยันว่า พรรคประชาชนตั้งใจอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวตั้งแต่แรก ส่วนกระแสข่าวที่มีข้อสอบรั่ว ก็เป็นเพียงกระแสข่าว ไม่ใช่ข้อเท็จจริง

คงต้องบันทึกไว้ แพทองธาร นายกฯหญิงของตระกูลชินวัตร โดนซักฟอกคนเดียว ต่างจากบิดา ทักษิณ ชินวัตร สมัยเป็นนายกฯ ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเลย

แม้จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทักษิณ ถึง 4 ครั้ง แต่ตัวนายกรัฐมนตรี ไม่เคยถูกยื่นซักฟอกแม้แต่ครั้งเดียว

เนื่องจากมาตรา 185 รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 กำหนดไว้ว่า ในการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ จะต้องมี สส.ไม่น้อยกว่า 2 ใน 5 ของ สส.ทั้งสภาฯ ซึ่งเวลานั้น พรรคไทยรักไทยมีเสียงในสภาฯ 377 เสียง

แพทองธาร เข้าสภาฯตอบกระทู้สดในสภาฯ ก่อนเจอของจริง ศึกซักฟอกของจริง

แผนเสี้ยมแดง-น้ำเงิน

 

ศึกซักฟอกรอบนี้ เป้าหลักจะอยู่ที่นายกฯแพทองธาร ในฐานะผู้นำรัฐบาล ลึกๆ แกนนำพรรคประชาชาชน คงต้องการสร้างแรงกระเพื่อม ทำให้เกิดการต่อรองในพรรคร่วมรัฐบาล

ทีมพรรคส้มได้วางตัว สส.ที่จะอภิปรายตัวนายกฯ อิ๊งค์ โดยเชื่อมโยงหลายกระทรวง หวังขยี้รอยร้าวของคนในฝ่ายรัฐบาล

เหนืออื่นใด พรรคส้มโฟกัสไปที่นายกฯอิ๊งค์ และอดีตนายกฯทักษิณ ซึ่งใครก็รู้ว่า นี่คือ “รัฐบาลพ่อเลี้ยง”

อย่างเช่นในเนื้อหาญัตติระบุว่า “…สมัครใจยินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการ หรืองดเว้นกระทำการ อันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดา เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ”

ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจหนนี้ คงไม่ต่างจากศึกซักฟอกอดีตนายกฯทักษิณ และเป็นเกมโชว์ของ สส.ค่ายสีแดง จะลุกขึ้นมาปกป้องนายใหญ่ และเป็นเกมวัดใจ สส.ค่ายสีน้ำเงิน จะเล่นบทไหน

ย้อยรอยขึงพืดบรรหาร

 

กรณีซักฟอกนายกฯคนเดียว และส่งผลสะเทือนทางการเมืองถึงขั้นยุบสภาฯ ก็คือสมัยรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา เมื่อปี 2539

เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพรรคฝ่ายค้าน ยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจบรรหาร ศิลปอาชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทยเพียงคนเดียว

พรรค ปชป.แค้นพรรคชาติไทย กรณีบรรหารคุมทีม สส.อภิปรายไม่ไว้วางใจประเด็น สปก.4-01 ทำให้นายกฯชวน ต้องยุบสภาฯ และมีเลือกตั้งใหม่ บรรหารจึงได้เป็นนายกฯ

ศึกซักฟอกบรรหาร กินเวลา 4 วัน (วันที่ 18-20 ก.ย.2539) มีการกล่าวหาและตั้งข้อสงสัย 13 ประเด็น อาทิ การแปลงสัญชาติ, การหนีภาษีขายที่ดินให้ธนาคารแห่งประเทศไทย, รับเงินสนับสนุนจากผู้ต้องหาคดียักยอกเงินธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ ฯลฯ

ก่อนการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคร่วมรัฐบาลเรียกประชุมและมีมติให้บรรหาร ลาออกจากนายกฯ ถ้าไม่ลาออก พรรคร่วมรัฐบาล จะไม่ยกมือไว้วางใจให้ แต่บรรหารต่อรองขอลาออกภายใน 7 วันแทน

ผลการต่อรองทำให้บรรหาร ได้รับเสียงไว้วางใจ 207 เสียง ไม่ไว้วางใจ 180 เสียง สุดท้าย บรรหารไม่ได้ลาออกตามที่กล่าวอ้าง แต่ใช้อำนาจของนายกฯ ตรา พ.ร.ก.ยุบสภา ในวันที่ 27 ก.ย. 2539

เบื้องลึกของเกมยืมมือฝ่ายค้านขึงพืดบรรหาร ก่อนเชือดนั้น มี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เป็นคนวางแผนทั้งหมด โดยมีคนในพรรคชาติไทยให้ความร่วมมือด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *