สุดยื้อ “โลมาอิรวดี” เพศเมีย อายุประมาณ 40 ปี ว่ายหลงเข้ามาในแม่น้ำปราจีนบุรี ชาวบ้านเห็นลอยคอหายใจรวยรินรีบเข้าช่วยเหลือ ก่อนเสียชีวิตคามือหมอ คาดหลงฝูงเข้ามาหากินช่วงน้ำทะเลหนุน
เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบำเพ็ญ จุดบ้านสร้างได้ลงเรือที่ท่าน้ำวัดบางยาง เพื่อลงค้นหาพิกัดของปลาโลมาเพื่อจะได้ช่วยเหลือกลับคืนสู่ธรรมชาติ โดยเมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 22 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่สว่างบำเพ็ญ จุดบ้านสร้าง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบโลมาลอยหมดแรงอยู่กลางแม่น้ำ ในพื้นที่ ม.1 ต.บางกระเบา อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี หลังได้รับแจ้งได้ลงตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และได้ประสานไปทางชาวบ้านที่พบเพื่อแนะนำให้ชาวบ้านปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการพยุงโลมาให้พ้นผิวน้ำ

ทางเจ้าหน้าที่และทีมสัตว์แพทย์ได้ลงเข้าดูอาการและช่วยเหลือ พบว่าตอนนั้นน้องมีอาการอ่อนเพลียมากเกินไป จึงได้ช่วยกันนำน้องขึ้นเหนือผิวน้ำ เพื่อให้ได้หายใจได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งได้ประมาณ 5 นาที น้องก็เสียชีวิต น้องมีความยาว 2.30 เมตร เพศเมีย หนักประมาณ 120-180 กิโลกรัม อายุประมาณ 40 ปี ทางเจ้าหน้าที่รีบนำน้องขึ้นมาและรักษาสภาพของโลมาให้เหมือนเดิมที่สุด โดยมีการนำแข็งมาแช่ไว้ เพื่อจะนำร่างน้องไปชันสูตรและศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากปากอ่าวไทยมาถึงจุดที่พบน้องมีระยะทางประมาณ 150 กม.
จากการสอบถามนายบุญลือ เปี่ยมวารี อายุ 54 ปี ผู้พบเห็น กล่าวว่า ตนพบเขาเห็นว่าเข้าจะขึ้นทุก 2 นาที และเขามาวูบอยู่ตรงนี้เขาลอยขึ้นมาและไม่ลงแล้ว ตนจึงเข้าไปช่วยน้องด้วยมือเปล่าตอนนั้นน้องไม่ดิ้นเขายอมให้จับ ก่อนหน้านั้นตนเห็นว่าน้องเขาวิ่งมาเป็นกิโลแล้ว
ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่า เราไปพบโลมาตัวดังกล่าวในสภาพที่อ่อนแรงและเสียชีวิตแล้ว และไม่สามารถระบุได้ว่าโลมาตัวดังกล่าวนั้นเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร เป็นเพราะแบคทีเรียหรือโรคเกี่ยวกับน้ำหรือไม่ จึงได้รีบนำซากโลมา ส่งไปยังมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คณะสัตวแพทย์โดยด่วนที่สุด เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิต

หลังจากที่โลมได้เสียชีวิตแล้วเบื้องต้นทีมสัตวแพทย์ของกรมทรัพยกรทางทะเลฯ ได้มีการเก็บตัวอย่างเลือด และสิ่งปฏิกูลทางทวาหนักและช่องปากเพื่อไปวิจัยหาสาเหจุของการเสียชีวิตในเบื้องต้น ก่อนนำซากโลมาไปชันสูตร
จากการสอบถามชลาทิพ จันทร์ชมภู ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน กล่าวว่า ชาวบ้านได้พบโลมาในอาการที่หมดแรงพยายามที่จะหายใจ ทางทีม สัตวแพทย์ของกรมทรัพยากรทางชายฝั่งได้แนะนำวิธีการกู้ชีพเบื้องต้น โดยให้พยุงเขาให้หัวพ้นน้ำ และในช่วงเวลา 8 โมง ทางทีมแพทย์เข้าพื้นที่พบว่าโลมามีอาการอ่อนแรงและเสียชีวิตในเวลาไม่เกิน 15 นาที ทางเราได้มีการประชาสัมพันธ์ให้กับชาวประมงทุกที่ขอความร่วมมือและเป็นหูเป็นตา ในวันนี้เรามีการนำซากโลมาไปที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต ผลของการชันสูตรใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
ข้อมูลในอดีตที่ผ่านมาเคสของการเข้ามาของลงมาในพื้นที่จนถึงแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำนครนายก เป็นพฤติกรรมที่สามารถพบเห็นได้ภายในอดีต ปัจจุบันอาจจะทำให้การกลับออกไปของโลมาค่อนข้างยาก ข้อมูลจากการสำรวจของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พบว่าปากแม่น้ำบางปะกงมีขนาดใหญ่ และมีกลุ่มโลมาประจำถิ่นคือโลมาอิรวดี ซึ่งเคสที่มีการพลัดหลงเข้ามาก็คือโลมาอิรวดีซึ่งเป็นชนิดประจำถิ่น
ในช่วงเวลาปลายปีตั้งแต่เดือนธันวาคมและต้นปีจะมีพฤติกรรมของน้ำทะเลหนุนสูง เพราะฉะนั้นตัวโลมาสามารถเข้ามากินอาหารด้านในของแม่น้ำบางปะกง ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติแล้วก็เป็นปกติ ในช่วงปลายปีเราจะมีการรายงานว่าพบปลาโลมาเข้ามาหากินตามอาหารตามธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะไม่เข้ามาลึกถึงขนาด 120 กิโลเมตร ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณอำเภอบางปะกงสามารถที่จะกลับ ปากอ่าวสู่ทะเลได้
ทางเจ้าหน้าที่ได้นำน้องขึ้นหลังรถยนต์กระบะและนำน้ำแข็งมาแช่น้องเพื่อรักษาสภาพน้องให้สมบูรณ์ที่สุด และนำร่างน้องไปชันสูตรและศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และหาสาเหตุของการเสียชีวิตต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง โลมาอิรวดี ,โลมาหลงเข้าแม่น้ำ