พระต่อยพยาบาล ตรวจเลือดหาสารเสพติด จับสึกดำเนินคดี

พระต่อยพยาบาล มีญาติพามาหาหมอ พยาบาลเข้าไปถามอาการ พระยืนนับนิ้วแล้วต่อย เบื้องต้นไม่พบประวัติป่วยจิตเวช ตรวจเลือดหาสารเสพติด จับสึก รักษาอาการป่วยก่อนดำเนินคดี

ต่อยพยาบาล เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น (11 มี.ค.68) เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ รพ.พระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานการทำร้ายร่างกายบุคลากรทางแพทย์ ได้ประสานสั่งการให้ไปแจ้งความดำเนินคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่พุทธศาสนาจังหวัดประสานพระสงฆ์ปกครอง ให้ดำเนินการสึกพ้นจากความเป็นพระแล้ว ตรวจเลือดหาสารเสพติด เบื้องต้นไม่พบประวัติป่วยจิตเวช

สำหรับอดีตพระเข้ามาก่อเหตุต่อยพยาบาล มีญาติพามาหาหมอ ขณะเดินเข้ามามีอาการตาขวาง ต่อมาพยาบาลเข้าไปสอบถามว่ามีอาการอย่างไร อดีตพระไม่ได้แจ้งอาการป่วยให้ทราบ แต่ยืนนับนิ้ว แล้วต่อยเข้าไปบริเวณหน้าอกของพยาบาลผู้หญิง เมื่อเกิดเหตุชุลมุนเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลจึงเข้าระงับเหตุ

หลังเกิดเหตุ นายแพทย์ปิยะเดช วลีพิทักษ์เดช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลพบุรี ได้ลงตรวจสอบพื้นที่และเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานขณะเกิดเหตุการณ์ ให้ติดตามผลกระทบและดูแลเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายร่างกาย และผู้ป่วย

ลำดับเหตุการณ์ต่อยพยาบาล
เวลา 09.25 น. พยาบาลจุดซักประวัติสังเกตเห็นว่าผู้ป่วย (พระภิกษุสงฆ์) ขณะที่รอตรวจมีอาการเดินไปมา สับสน ปลดจีวร

เวลา 09.30 น. ผู้ป่วยลุกเดินผ่านโต๊ะจุดคัดกรอง  ผู้ช่วยเหลือคนไข้ที่นั่งประจำโต๊ะคัดกรองได้สอบถามว่า หลวงพี่จะไปไหนคะ หลังจากนั้นผู้ป่วยได้หันมานับนิ้ว จ้องหน้าเจ้าหน้าที่ ตาขวาง หลังจากนั้นได้เข้าทำร้ายร่างกายโดยการทุบบริเวณด้านหลังและคอ 2 ครั้ง หลังจากนั้นจะเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่คนอื่น ญาติผู้ป่วยที่มารอตรวจเห็นเหตุการณ์จึงได้เข้าช่วยเหลือโดยการช่วยกันจับแยกจากเจ้าหน้าที่ที่จะถูกทำร้ายร่างกาย  ศูนย์เปลและ รปภ. มาช่วยระงับเหตุและนำผู้ป่วยส่งห้องฉุกเฉิน

เวลา 09.35 น. นำส่งห้องฉุกเฉิน แรกรับที่ห้องฉุกเฉิน ผู้ป่วยพูดจากสับสน นอนดิ้นไปมา สัญญาณชีพปกติ แพทย์ที่ห้องฉุกเฉินรักษาอาการเบื้องต้น ให้ยาระงับประสาท เพื่อให้ผู้ป่วยสงบ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่รักษาโรคประจำตัวและจิตแพทย์ให้นอนโรงพยาบาลตึกอายุรกรรมชาย 1 เพื่อรักษาอาการทางกายและจิตใจต่อไป

ในส่วนเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายร่างกายเป็นผู้ช่วยพยาบาล อายุ 37 ปี ปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล รวมอายุงาน 5 ปี 11 เดือน 24 วัน มีโรคประจำตัวต่อมธัยรอยด์เป็นพิษหลังถูกทำร้ายร่างกายได้ส่งตรวจที่ห้องฉุกเฉินเวลา 9.30 น. ตรวจไม่พบบาดแผลภายนอก  ปวดบริเวณบ่าขวา และท้ายทอย แพทย์ได้ให้ยาแก้ปวด อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน 2 วัน ปรึกษาจิตแพทย์ ประจำโรงพยาบาลให้ทำแบบประเมินผลกระทบทางจิตใจหลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญและส่งพบจิตแพทย์ประเมินอาการ ภายในหนึ่งสัปดาห์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและทีมนำได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน และ ปรับปรุงบริการเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ ยังผู้ป่วยรายอื่นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุชุลมุน คนแรกเป็นผู้ป่วยหญิง อายุ 88 ปี ตกใจลุกขึ้นยืน สะดุดขาเก้าอี้ แล้วล้มลง บาดเจ็บที่สะโพกซ้าย ส่งฟิล์มเอกซเรย์สะโพกซ้ายไม่พบกระดูกหัก และคนที่สอง เป็นผู้ป่วยชาย อายุ 23 ปี ถูกส่งต่อมาจาก รพ. พัฒนานิคม ด้วยเรื่องใจสั่น เข้าช่วยระงับเหตุ แต่ถูกถีบที่มือซ้าย ปวดนิ้วชี้ ไม่พบบาดแผลภายนอก ส่ง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *